ข้ามไปเนื้อหา

โคลเชสเตอร์

พิกัด: 51°53′30″N 0°54′11″E / 51.8917°N 0.903°E / 51.8917; 0.903
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โคลเชสเตอร์

Colchester High Street
โคลเชสเตอร์ตั้งอยู่ในเอสเซกซ์
โคลเชสเตอร์
โคลเชสเตอร์
ที่ตั้งในเอสเซกซ์
ประชากร111,921 [1]
เดมนิมColcestrian
โอเอสกริดTL997254
• ลอนดอน52 mi (84 km) South west
อำเภอ
เชอร์เคาน์ที
ภูมิภาค
ประเทศEngland
รัฐเอกราชสหราชอาณาจักร
โพสท์ทาวน์COLCHESTER
เขตรหัสไปรษณีย์CO1 – CO4
รหัสโทรศัพท์01206
ตำรวจเอสเซกซ์
ดับเพลิงเอสเซกซ์
รถพยาบาลอีสต์ออฟอิงแลนด์
รัฐสภาสหราชอาณาจักร
รายชื่อสถานที่
สหราชอาณาจักร
ประเทศอังกฤษ
เอสเซกซ์
51°53′30″N 0°54′11″E / 51.8917°N 0.903°E / 51.8917; 0.903

โคลเชสเตอร์ (อังกฤษ: Colchester) เป็นเมืองเก่าและใหญ่ที่สุดของเทศมณฑลโคลเชสเตอร์ มณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เป็นเมืองที่ชาวโรมันก่อตั้งขึ้นเป็นเมืองแรกใน โคโลเนีย ของบริเตนใหญ่ และถือได้ว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีการบันทึกของประเทศอังกฤษ[2][3] ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของบริเตนสมัยโรมันและเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองโบราณที่สุดของยุโรป[4] เมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโคล์น[5]

โคลเชสเตอร์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอนราว 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) เชื่อมโยงกับเมืองหลวงนี้ผ่านถนนสายเอ 12 และสถานีรถไฟโคลเชสเตอร์ ถือเป็นเมืองไปกลับที่ได้รับความนิยม[6]

เมืองโคลเชสเตอร์มีปราสาทโคลเชสเตอร์และสโมสรฟุตบอลโคลเชสเตอร์ยูไนเต็ด

อ้างอิง

[แก้]
  1. https://www.citypopulation.de/php/uk-parishes-eastofengland.php?adm2id=E43000228
  2. https://www.visitcolchester.com/
  3. Colchester Tourist Board (2011). "Colchester – Britain's Oldest Recorded Town". visitcolchester.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 January 2013. สืบค้นเมื่อ 19 May 2011.
  4. MAETN (1999). "diktyo". classic-web.archive.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2005. สืบค้นเมื่อ 19 May 2011.
  5.  Chisholm, Hugh, บ.ก. (1911). "Colchester" . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 6 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์. pp. 660–661.
  6. Prophet, Sheila (12 ตุลาคม 2006). "King Commute: the best new property deals within an hour of central London". The Daily Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 เมษายน 2014.