ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ
ส่วนหนึ่งของชุดการเมือง |
ระบบการลงคะแนน |
---|
สถานีย่อยการเมือง |
ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ (อังกฤษ: party-list proportional representation) หรือ ปาร์ตีลิสต์ (party list) เป็นระบบการลงคะแนนที่กำหนดให้ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง โดยแต่ละพรรคการเมืองได้จัดทำบัญชีรายชื่อของผู้สมัครไว้ เมื่อพรรคใดได้รับเลือก ผู้สมัครที่อยู่ในบัญชีของพรรคนั้นก็จะได้รับเลือกตามสัดส่วนคะแนนเสียงที่ได้รับ โดยระบบสัดส่วนบัญชีรายชื่อสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งกับระบบสมาชิกเพิ่มเติม (additional member system)[1]
ในระบบการลงคะแนนเหล่านี้ พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะจัดทำรายชื่อผู้สมัครไว้ โดยพรรคการเมืองจะได้รับจัดสรรจำนวนที่นั่งตามสัดส่วนคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองนั้นได้รับ โดยผู้ลงคะแนนอาจลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองได้เลย เช่นในแอลเบเนีย อาร์เจนตินา ตุรกี และอิสราเอล หรืออีกกรณีหนึ่งคือ ลงคะแนนให้ผู้สมัครซึ่งคะแนนเสียงจะมารวมกันเป็นคะแนนเสียงของพรรค ดั่งในฟินแลนด์ บราซิล และเนเธอร์แลนด์ หรือลงคะแนนให้กับรายชื่อผู้สมัคร เช่นในฮ่องกง[2] หรือแม้แต่ลงคะแนนให้เลือกระหว่างสองวิธีหลังนี้ดั่งในลักเซมเบิร์ก ("ปานาชาฌ" กับบัญชีรายชื่อ)[3]
การจัดสรรที่นั่ง
[แก้]การจัดสรรที่นั่งในระบบสัดส่วนบัญชีรายชื่อสามารถกระทำได้หลายวิธี โดยวิธีหลักที่ใช้กันมากสองวิธีได้แก่
- วิธีค่าเฉลี่ยสูงสุด รวมถึงวิธีโดนต์ (D'Hondt method) ซึ่งใช้ในกัมพูชา โครเอเชีย บราซิล บัลแกเรีย โปแลนด์ ฟินแลนด์ สเปน ออสเตรีย อาร์เจนตินา อาร์มีเนีย อิสราเอล เอสโตเนีย แอลเบเนีย และประเทศอื่น ๆ และวิธีแซ็งต์-ลากูว์ (Sainte-Laguë method) ซึ่งใช้ในนอร์เวย์ นิวซีแลนด์ สวีเดน และเยอรมนี (ในสภาบุนเดิสทาคและอีกหกรัฐ)
- วิธีเหลือเศษสูงสุด รวมถึงวิธีแฮมิลตัน
ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อยังสามารถใช้ได้ในแบบลูกผสม (ไฮบริด) เช่น ระบบเสริมสมาชิก
วิธีการจัดสรรที่นั่งหลักได้แก่[4]
- วิธีโดนต์แบบปรับแต่ง (เอื้อต่อพรรคขนาดเล็ก)
- วิธีฮันติงตัน-ฮิลล์ (เอื้อต่อพรรคขนาดเล็ก-เพียงเล็กน้อย)
- วิธีเว็บสเตอร์/แซ็งต์-ลากูว์ โควตาแฮร์ (เอื้อต่อพรรคขนาดเล็ก-เพียงเล็กน้อยหากไม่ได้ปรับแต่ง และไม่มีเกณฑ์การใช้คะแนนเสียงขั้นต่ำ)
- โควตาดรูป (เอื้อต่อพรรคขนาดใหญ่-เพียงเล็กน้อย)
- วิธีโดนต์ (เอื้อต่อพรรคขนาดใหญ่-เพียงเล็กน้อย)[5]
- โควตาอิมเปรีอาลี (เอื้อต่อพรรคขนาดใหญ่-มาก)
ในขณะที่การเลือกใช้สูตรคำนวณนั้นมีความสำคัญ อีกเรื่องที่ไม่แพ้กันคือ ขนาดของเขตเลือกตั้ง (จำนวนที่นั่งของแต่ละเขตเลือกตั้ง) ยิ่งขนาดใหญ่ขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้ระบบการลงคะแนนเป็นสัดส่วนมากขึ้นเท่านั้น โดยหากจะให้เป็นสัดส่วนมากที่สุดคือเมื่อไม่มีการแบ่งเขตเลือกตั้งโดยถือว่าทั้งประเทศคือเขตเลือกตั้งเดียว นอกจากนั้นในบางประเทศ ระบบการลงคะแนนแบ่งออกเป็นสองระดับ ระดับประเทศสำหรับพรรคการเมือง และระดับเขตเลือกตั้งสำหรับผู้สมัคร พร้อมทั้งบัญชีรายชื่อซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของระดับประเทศ ในกรณีนี้ ขนาดของเขตเลือกตั้งนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องหากการจัดสรรที่นั่งนั้นคำนวณมาจากคะแนนเสียงระดับประเทศ
บัญชีรายชื่อ
[แก้]ลำดับในบัญชีรายชื่อนั้นมีความสำคัญต่อผู้สมัครในบัญชีนั้นมีผล โดยอาจจะถูกกำหนดโดยวิธีการภายในของแต่ละพรรค (บัญชีปิด) หรืออาจจะเลือกโดยผู้ลงคะแนนทั้งหมด (บัญชีเปิด) หรือบัญชีที่แตกต่างกันในแต่ละเขต (บัญชีท้องถิ่น) โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ
บัญชีรายชื่อแบบปิด
[แก้]ในระบบบัญชีปิด (close list) นั้น พรรคการเมืองจะเป็นผู้ทำบัญชีรายชื่อ จัดลำดับผู้สมัคร และส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้กับองค์กรกำกับการเลือกตั้ง บัญชีรายชื่ออาจจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อให้ผู้ลงคะแนนเสียงทราบว่าผู้สมัครรายใดจะได้รับเลือกตามลำดับ ผู้ลงคะแนนสามารถลงคะแนนให้แก่พรรคการเมืองเท่านั้น ไม่สามารถลงแยกเป็นรายผู้สมัครได้
บัญชีรายชื่อแบบเปิด
[แก้]ในระบบบัญชีเปิด (open list) ผู้ลงคะแนนเสียงมีสิทธิ์เลือกพรรคและเรียงลำดับผู้สมัครในบัญชีรายชื่อนั้น ๆ ตามความพอใจในผู้สมัครแต่ละคนได้ โดยมีหลายระดับตั้งแต่ ปิดบางส่วน ที่ผู้สมัครสามารถเลื่อนระดับขึ้นได้ถ้าได้รับจำนวนคะแนนเสียงจำนวนหนึ่ง จนถึง เปิดเต็มที่ ซึ่งลำดับในบัญชีนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามคะแนนเสียงที่ผู้ลงคะแนนออกเสียงเลือกผู้สมัครเป็นรายบุคคล
ในฝรั่งเศส ระบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งระบบสัดส่วนจะต้องรวมผู้สมัครให้มากที่สุด (โดยมากถึงมีจำนวนตัวสำรองเป็นสองเท่าสำหรับการเลือกตั้งระดับจังหวัด) ตามลำดับที่มีให้ในบัญชีรายชื่อทั้งหมด ในขณะที่ในประเทศอื่น ๆ นั้นไม่จำเป็นจะต้องใส่ให้เต็มบัญชีก็ได้ ในระบบบัญชีเปิดนี้เรียกกันว่า "ปานาชาฌ"
บัญชีรายชื่อท้องถิ่น
[แก้]ในระบบบัญชีรายชื่อท้องถิ่น (local list) ผู้ลงคะแนนเสียงมีสิทธิ์เลือกผู้สมัครในท้องถิ่นของตนเอง ผู้สมัครที่มีอัตราผู้ออกเสียงมากที่สุดจะได้เข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อตามลำดับ[6]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Proportional Representation Systems". mtholyoke.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001-01-24. สืบค้นเมื่อ 2021-06-16.
- ↑ "Proportional Representation Open List Electoral Systems in Europe" (PDF). International Foundation for Electoral Systems. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-12-24.
- ↑ "Système électoral du Grand-Duché de Luxembourg(fr)". elections.public.lu.
- ↑ Benoit, Kenneth. "Which Electoral Formula Is the MostProportional? A New Lookwith New Evidence" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-06-24.
- ↑ Wilson, Helen J. "The D'Hondt Method Explained" (PDF).
- ↑ การเลือกตั้งและระบบเลือกตั้ง[ลิงก์เสีย], คณะทำงานศึกษาวิเคราะห์และติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ