ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กอปปีเลฟต์"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata |
Kwamikagami (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 14 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 14 คน) | |||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}} |
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}} |
||
[[ไฟล์: |
[[ไฟล์:Unicode 1xF12F.svg|thumb|right|ตัวอักษร c หันหลังกลับ สัญลักษณ์ของ กอปปีเลฟต์]] |
||
[[ไฟล์: |
[[ไฟล์:Unicode 0x00A9.svg|thumb|right|เครื่องหมายลิขสิทธิ์]] |
||
'''กอปปีเลฟต์''' ({{ |
'''กอปปีเลฟต์''' ({{langx|en|copyleft}}) หมายถึงกลุ่มของ[[สัญญาอนุญาต]]ของสิ่งต่าง ๆ รวมทั้ง [[ซอฟต์แวร์]] เอกสาร เพลง งานศิลปะ โดยอ้างอิง[[กฎหมายลิขสิทธิ์]]เป็นแนวเปรียบเทียบ ในการจำกัดสิทธิในการคัดลอกงานและเผยแพร่งาน โดยสัญญาอนุญาตกลุ่ม กอปปีเลฟต์ มอบเสรีภาพให้ทุกคนสามารถคัดลอก ดัดแปลง ปรับปรุง และจำหน่ายงานได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยังคงรักษาเสรีภาพเดียวกันนี้ในงานที่ดัดแปลงแก้ไขมาจากงานดังกล่าว |
||
อาจจะมองได้ว่าลักษณะพิเศษของ |
อาจจะมองได้ว่าลักษณะพิเศษของ กอปปีเลฟต์ คือการที่เจ้าของลิขสิทธิ์ยอมสละสิทธิบางอย่าง (ที่ได้รับการคุ้มครอง) ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์แต่ไม่ทั้งหมด |
||
แทนที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะปล่อยงานของเขาออกมาภายในพื้นที่สาธารณะโดยสมบูรณ์ (นั่นคือไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ) |
แทนที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะปล่อยงานของเขาออกมาภายในพื้นที่สาธารณะโดยสมบูรณ์ (นั่นคือไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ) |
||
กอปปีเลฟต์ จะให้เจ้าของสามารถกำหนดข้อจำกัดหรือเงื่อนไขทางด้านลิขสิทธิ์บางประการ สำหรับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในงานอันมีลิขสิทธิ์นี้ โดยถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้แล้ว จะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ |
|||
เงื่อนไขเพื่อที่จะไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้ |
เงื่อนไขเพื่อที่จะไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้ กอปปีเลฟต์ นี้ ได้แก่ การที่ผู้ที่ใช้สอยผลงานจะต้องรักษาสิทธิภายใต้ กอปปีเลฟต์ นี้ไว้ดังเดิมอย่างถาวร |
||
ด้วยเหตุนี้ สัญญาอนุญาต |
ด้วยเหตุนี้ สัญญาอนุญาต กอปปีเลฟต์ จึงถูกเรียกว่าเป็น '''สัญญาอนุญาตต่างตอบแทน''' (reciprocal licenses) |
||
สัญลักษณ์ของ |
สัญลักษณ์ของ กอปปีเลฟต์ เป็นตัวอักษร [[c]] หันหลังกลับ (ɔ) โดยไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษนอกจากการตรงกันข้ามกับ copy''right'' โดยล้อกับอีกความหมายหนึ่งของคำว่า right ที่แปลว่า ขวา |
||
ในภาษาไทย ยังไม่มีคำที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับ |
ในภาษาไทย ยังไม่มีคำที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับ กอปปีเลฟต์ |
||
[[สมเกียรติ ตั้งนโม]] นักวิชาการ[[มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน]] ใช้ว่า "ลิขซ้าย" คงการล้อ ขวา-ซ้าย ไว้<ref name="midnightuniv">หน้าแรก [http://www.midnightuniv.org/ เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน] มีข้อความ "ลิขซ้าย 2548, 2549, 2550 : สมเกียรติ ตั้งนโม"</ref> |
[[สมเกียรติ ตั้งนโม]] นักวิชาการ[[มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน]] ใช้ว่า "ลิขซ้าย" คงการล้อ ขวา-ซ้าย ไว้<ref name="midnightuniv">หน้าแรก [http://www.midnightuniv.org/ เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน] มีข้อความ "ลิขซ้าย 2548, 2549, 2550 : สมเกียรติ ตั้งนโม"</ref> |
||
ส่วน [[สมชาย ปรีชาศิลปกุล]] อาจารย์นิติศาสตร์ [[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่]] ใช้คำว่า "นิรสิทธิ์" หมายถึง ระบบที่ไม่มีหรือไม่ให้สิทธิคุ้มครอง<ref name=" |
ส่วน [[สมชาย ปรีชาศิลปกุล]] อาจารย์นิติศาสตร์ [[มหาวิทยาลัยเชียงใหม่]] ใช้คำว่า "นิรสิทธิ์" หมายถึง ระบบที่ไม่มีหรือไม่ให้สิทธิคุ้มครอง<ref name="กอปปีเลฟต์-somchai">[http://www.prachatai.com/05web/th/home/16202 รายงาน: จากลิขสิทธิ์ – สละสิทธิ์ – สู่ครีเอทีฟคอมมอนส์], ประชาไท, 5 เม.ย. 2552</ref> |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
แนวคิดของ |
แนวคิดของ กอปปีเลฟต์ เริ่มจากการที่ [[ริชาร์ด สตอลแมน]] ได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ [[interpreter|ตัวแปลคำสั่ง]]ภาษา [[Lisp]] ขึ้นมา ต่อมาบริษัทที่ชื่อว่า Symbolics ได้ขอใช้งานตัวแปลคำสั่งนี้ สตอลแมนตกลงอนุญาตให้บริษัทดังกล่าวใช้งาน โดยมอบเป็น[[สาธารณสมบัติ]] (public domain) คือไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ เลย |
||
ในเวลาต่อมา บริษัท Symbolics ได้แก้ไขปรับปรุงความสามารถของตัวแปลคำสั่งภาษา Lisp ให้ดีขึ้น แต่เมื่อสตอลแมนแสดงความต้องการที่จะเข้าถึงส่วนที่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเหล่านั้น ก็ได้รับการปฏิเสธจากบริษัท |
ในเวลาต่อมา บริษัท Symbolics ได้แก้ไขปรับปรุงความสามารถของตัวแปลคำสั่งภาษา Lisp ให้ดีขึ้น แต่เมื่อสตอลแมนแสดงความต้องการที่จะเข้าถึงส่วนที่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเหล่านั้น ก็ได้รับการปฏิเสธจากบริษัท |
||
ด้วยเหตุนี้ ในปี [[ค.ศ. 1984]] สตอลแมนจึงได้เริ่มแผนการต่อต้านและกำจัดพฤติกรรมและวัฒนธรรมของการหวงแหนซอฟต์แวร์ไว้ ([[proprietary software]]) เหล่านี้ โดยเขาได้เรียกพฤติกรรมเหล่านี้ว่า[[การกักตุนซอฟต์แวร์]] ([[:en:software hoarding|software hoarding]])<ref>http://www.oreilly.com/openbook/freedom/ch07.html</ref> |
ด้วยเหตุนี้ ในปี [[ค.ศ. 1984]] สตอลแมนจึงได้เริ่มแผนการต่อต้านและกำจัดพฤติกรรมและวัฒนธรรมของการหวงแหนซอฟต์แวร์ไว้ ([[proprietary software]]) เหล่านี้ โดยเขาได้เรียกพฤติกรรมเหล่านี้ว่า[[การกักตุนซอฟต์แวร์]] ([[:en:software hoarding|software hoarding]])<ref>http://www.oreilly.com/openbook/freedom/ch07.html</ref> |
||
เนื่องจากสตอลแมนเห็นว่าในระยะสั้น มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดกฎหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน รวมถึงสิ่งที่เขามองว่าเป็นสิ่งผิดปกติให้หมดไปอย่างถาวร เขาจึงเลือกที่จะใช้กลไกของกฎหมายที่มีอยู่มาเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสิ่งที่เขาต้องการ เขาได้สร้างสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในแบบของเขาขึ้นมาเอง โดยสัญญาอนุญาตที่เขาสร้างขึ้นมาถือเป็นสัญญาอนุญาตแบบ |
เนื่องจากสตอลแมนเห็นว่าในระยะสั้น มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดกฎหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน รวมถึงสิ่งที่เขามองว่าเป็นสิ่งผิดปกติให้หมดไปอย่างถาวร เขาจึงเลือกที่จะใช้กลไกของกฎหมายที่มีอยู่มาเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสิ่งที่เขาต้องการ เขาได้สร้างสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในแบบของเขาขึ้นมาเอง โดยสัญญาอนุญาตที่เขาสร้างขึ้นมาถือเป็นสัญญาอนุญาตแบบ กอปปีเลฟต์ ตัวแรก คือ Emacs General Public License<ref>{{Cite web |url=http://www.free-soft.org/gpl_history/emacs_gpl.html |title=สำเนาที่เก็บถาวร |access-date=2007-06-21 |archive-date=2018-06-12 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180612143537/http://www.free-soft.org/gpl_history/emacs_gpl.html |url-status=dead }}</ref> ซึ่งต่อมาสัญญาอนุญาตนี้ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงจนกระทั่งกลายเป็น [[GPL|GNU General Public License (GPL)]] ซึ่งเป็นสัญญาอนุญาตแบบ[[ซอฟต์แวร์เสรี]]ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันหนึ่ง |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
บรรทัด 34: | บรรทัด 34: | ||
* [http://www.midnightuniv.org/midnight2545/document9575.html สวนกระแสลิขสิทธิ์และเรื่องของลิขซ้ายโดยสังเขป] เรียบเรียงโดย สมเกียรติ ตั้งนโม |
* [http://www.midnightuniv.org/midnight2545/document9575.html สวนกระแสลิขสิทธิ์และเรื่องของลิขซ้ายโดยสังเขป] เรียบเรียงโดย สมเกียรติ ตั้งนโม |
||
[[หมวดหมู่:สัญญาอนุญาต]] |
[[หมวดหมู่:สัญญาอนุญาตและใบอนุญาต]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 14:05, 16 ธันวาคม 2567
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
กอปปีเลฟต์ (อังกฤษ: copyleft) หมายถึงกลุ่มของสัญญาอนุญาตของสิ่งต่าง ๆ รวมทั้ง ซอฟต์แวร์ เอกสาร เพลง งานศิลปะ โดยอ้างอิงกฎหมายลิขสิทธิ์เป็นแนวเปรียบเทียบ ในการจำกัดสิทธิในการคัดลอกงานและเผยแพร่งาน โดยสัญญาอนุญาตกลุ่ม กอปปีเลฟต์ มอบเสรีภาพให้ทุกคนสามารถคัดลอก ดัดแปลง ปรับปรุง และจำหน่ายงานได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยังคงรักษาเสรีภาพเดียวกันนี้ในงานที่ดัดแปลงแก้ไขมาจากงานดังกล่าว
อาจจะมองได้ว่าลักษณะพิเศษของ กอปปีเลฟต์ คือการที่เจ้าของลิขสิทธิ์ยอมสละสิทธิบางอย่าง (ที่ได้รับการคุ้มครอง) ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์แต่ไม่ทั้งหมด แทนที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะปล่อยงานของเขาออกมาภายในพื้นที่สาธารณะโดยสมบูรณ์ (นั่นคือไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ) กอปปีเลฟต์ จะให้เจ้าของสามารถกำหนดข้อจำกัดหรือเงื่อนไขทางด้านลิขสิทธิ์บางประการ สำหรับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในงานอันมีลิขสิทธิ์นี้ โดยถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้แล้ว จะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เงื่อนไขเพื่อที่จะไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้ กอปปีเลฟต์ นี้ ได้แก่ การที่ผู้ที่ใช้สอยผลงานจะต้องรักษาสิทธิภายใต้ กอปปีเลฟต์ นี้ไว้ดังเดิมอย่างถาวร ด้วยเหตุนี้ สัญญาอนุญาต กอปปีเลฟต์ จึงถูกเรียกว่าเป็น สัญญาอนุญาตต่างตอบแทน (reciprocal licenses)
สัญลักษณ์ของ กอปปีเลฟต์ เป็นตัวอักษร c หันหลังกลับ (ɔ) โดยไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษนอกจากการตรงกันข้ามกับ copyright โดยล้อกับอีกความหมายหนึ่งของคำว่า right ที่แปลว่า ขวา
ในภาษาไทย ยังไม่มีคำที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับ กอปปีเลฟต์ สมเกียรติ ตั้งนโม นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ใช้ว่า "ลิขซ้าย" คงการล้อ ขวา-ซ้าย ไว้[1] ส่วน สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใช้คำว่า "นิรสิทธิ์" หมายถึง ระบบที่ไม่มีหรือไม่ให้สิทธิคุ้มครอง[2]
ประวัติ
[แก้]แนวคิดของ กอปปีเลฟต์ เริ่มจากการที่ ริชาร์ด สตอลแมน ได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตัวแปลคำสั่งภาษา Lisp ขึ้นมา ต่อมาบริษัทที่ชื่อว่า Symbolics ได้ขอใช้งานตัวแปลคำสั่งนี้ สตอลแมนตกลงอนุญาตให้บริษัทดังกล่าวใช้งาน โดยมอบเป็นสาธารณสมบัติ (public domain) คือไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ เลย ในเวลาต่อมา บริษัท Symbolics ได้แก้ไขปรับปรุงความสามารถของตัวแปลคำสั่งภาษา Lisp ให้ดีขึ้น แต่เมื่อสตอลแมนแสดงความต้องการที่จะเข้าถึงส่วนที่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเหล่านั้น ก็ได้รับการปฏิเสธจากบริษัท
ด้วยเหตุนี้ ในปี ค.ศ. 1984 สตอลแมนจึงได้เริ่มแผนการต่อต้านและกำจัดพฤติกรรมและวัฒนธรรมของการหวงแหนซอฟต์แวร์ไว้ (proprietary software) เหล่านี้ โดยเขาได้เรียกพฤติกรรมเหล่านี้ว่าการกักตุนซอฟต์แวร์ (software hoarding)[3]
เนื่องจากสตอลแมนเห็นว่าในระยะสั้น มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดกฎหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน รวมถึงสิ่งที่เขามองว่าเป็นสิ่งผิดปกติให้หมดไปอย่างถาวร เขาจึงเลือกที่จะใช้กลไกของกฎหมายที่มีอยู่มาเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสิ่งที่เขาต้องการ เขาได้สร้างสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในแบบของเขาขึ้นมาเอง โดยสัญญาอนุญาตที่เขาสร้างขึ้นมาถือเป็นสัญญาอนุญาตแบบ กอปปีเลฟต์ ตัวแรก คือ Emacs General Public License[4] ซึ่งต่อมาสัญญาอนุญาตนี้ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงจนกระทั่งกลายเป็น GNU General Public License (GPL) ซึ่งเป็นสัญญาอนุญาตแบบซอฟต์แวร์เสรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันหนึ่ง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ หน้าแรก เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน มีข้อความ "ลิขซ้าย 2548, 2549, 2550 : สมเกียรติ ตั้งนโม"
- ↑ รายงาน: จากลิขสิทธิ์ – สละสิทธิ์ – สู่ครีเอทีฟคอมมอนส์, ประชาไท, 5 เม.ย. 2552
- ↑ http://www.oreilly.com/openbook/freedom/ch07.html
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-12. สืบค้นเมื่อ 2007-06-21.
ดูเพิ่ม
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- สวนกระแสลิขสิทธิ์และเรื่องของลิขซ้ายโดยสังเขป เรียบเรียงโดย สมเกียรติ ตั้งนโม