Jump to content

ພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະເລີດຫຼ້ານະພາໄລ

ຈາກ ວິກິພີເດຍ
ພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະເລີດຫຼ້ານະພາໄລ

ພະບໍລົມນາມາພິໄທ ສິນ
ພະປໍລະມາພິໄທ ພະບາດສົມເດັດພະບໍຣົມຣາຊາທິຣາດຣາມາທິບໍດີ ສີສິນທະຣະບໍຣົມມະຫາຈັກກະພັດດິຣາຊາທິຣາດທິບໍດິນ ທໍຣະນິນທາທິຣາດ ຣັດຕະນາກາດພາສສະກໍຣະວົງ ອົງປໍຣະມາທິເບດ ຕີພູວະເນດວໍຣະນາຍົກ ດິຫຼົກຣັດຕະນະຣາດຊາດອາຊາວະໄສ ສະໝຸໄທດະໂຣມົນ ສາກົນຈັກກະວາລາທິເບນ ສຸຣິເຍາທາທິບໍດິນ ຫະຫຣິຫະຣິນທາ ທາດາທິບໍດີ ສີວິບູນຍະຄຸນອະກະນິດ ຣິດທິຣາເມສວນມະຫັນ ບໍຣົມທັນມິກກະຣາຊາທິຣາດເດໂຊໄຊ ພົມເທພາດິເທບນະຣຶບໍດິນ ພູມິນທະຣະປໍຣະມາທິເບດ ໂລກກະເຊດວິສຸດ ຣັດຕະນະມະກຸດປະກາດ ຄະຕາມະຫາພຸດທາງກູນບໍຣົມບໍພິດ ພະພຸດທະເຈົ້າຢູ່ຫົວ
ພະລາຊະອິສະລິຍະຍົດ ພະເຈົ້າກຸງສີອະຍຸດທະຍາ
ລາຊະວົງ ຈັກກີ
ຄອງລາດ 7 ກັນຍາ ຄ.ສ. 1809 – 21 ກໍລະກົດ​ ຄ.ສ. 1824
ບໍລົມລາຊາພິເສກ 17 ກັນຍາ ຄ.ສ. 1809
ໄລຍະຄອງລາດ 14 ປີ
ລາຊະການກ່ອນໜ້າ ພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະຍອດຟ້າຈຸລາໂລກມະຫາລາດ
ລາຊະການຕໍ່ໄປ ພະບາດສົມເດັດພະນັ່ງເກົ້າເຈົ້າຢູ່ຫົວ
ວັດປະຈຳລາຊະການ ວັດອະຣຸນຣາດຊະວະຣາຣາມ
ພະບໍລົມມະອັດຖິ ຫໍພະທາດມົນທຽນ ໃນພະບໍລົມມະຫາລາຊະວັງ
ຂໍ້ມູນສ່ວນພະອົງ
ພະລາຊະສົມພົບ 24 ກຸມພາ ຄ.ສ. 1767(1767-02-24)
ບ່ອນທີ່ພະລາຊະສົມພົບ ນະ ບ້ານອຳພະວາ ເມືອງສະໝຸດສົງຄາມ ອານາຈັກທົນບຸລີ
ສະຫວັນຄົດ 21 ກໍລະກົດ ຄ.ສ. 1824 (56 ພັນສາ)
ບ່ອນທີ່ສິ້ນພະຊົນ ນະ ພະລາຊະວັງຫຼວງ ບາງກອກ ອານາຈັກຣັດຕະນະໂກສິນ
ພະລາດຊະບິດາ ພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະຍອດຟ້າຈຸລາໂລກມະຫາລາດ
ພະລາດຊະມານດາ ສົມເດັດພະອະມະຣິນທາບໍຣົມລາຊິນີ
ພະມະເຫສີ ສົມເດັດພະເຈົ້າຫຼານເທີ ເຈົ້າຟ້າບຸນຣອດ
ສົມເດັດພະເຈົ້ານ້ອງນາງເທີ ເຈົ້າຟ້າກຸນທົນທິບພະຍະວະດີ
ພະສະໜົມ 56 ທ່ານ
ພະລາດຊະບຸດ 73 ພະອົງ

ພະບາດສົມເດັດພະບໍລົມລາຊະພົງເຊດມະເຫສວນສຸນທອນ ພະພຸດທະເລີດຫຼ້ານະພາໄລ (ໄທ: พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย, ພຣະບາທສມເດັຈພຣະບຣມຣາຊພງສເຊສຖມເຫສວຣສຸນທຣ ພຣະພຸທທເລິສຫລ້ານພາລັຍ; 24 ກຸມພາ ຄ.ສ. 1767 – 21 ກໍລະກົດ ຄ.ສ. 1824) ແມ່ນພະລາຊະໂອລົດພະອົງທີ 4 ໃນພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະຍອດຟ້າຈຸລາໂລກມະຫາລາດ ແລະເປັນກະສັດອົງທີ 2 ຂອງສະຫຍາມໃນສະໄໝລາຊະວົງຈັກກີ ປົກຄອງຮະຫວ່າງ ຄ.ສ. 1809 ເຖິງ ຄ.ສ. 1824 ໃນປີ ຄ.ສ. 1809 ເຈົ້າຟ້າສິມ ຫຼື ກົມຫຼວງອິດສະຫຣະສຸນທອນ ພະລາຊະໂອລົດອົງໂຕສືບລາຊະບັນລັງຕໍ່ຈາກລາຊະການທີ 1 ພະລາຊະບິດາຜູ້ສະຖາປະນາລາຊະວົງຈັກກີເປັນ ພະບາດສົມເດັດພະພຸດທະເລີດຫຼ້ານະພາໄລ ລາຊະສະໄໝຂອງພະອົງສະຫງົບສຸກ ປາດສະຈາກຄວາມຂັດແຍ້ງ ລາຊະສະໄໝຂອງພະອົງແມ່ນ "ຍຸກຄຳຂອງວັນນະຄະດີ" ເນືອງຈາກພະອົງຊົງອຸບປະຖຳກະວີຫຼາຍຄົນໃນລາຊະສຳນັກ ແລະພະອົງເອງກົມີຊື່ສຽງໃນຖານະກະວີແລະສິນລະປິນ ກະວີທີ່ໂດດເດ່ນທີ່ສຸດໃນລາຊະສຳນັກຄືສຸນທອນພູ່

พระราชประวัติ

ແມ່ແບບ:พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี

ก่อนครองราชย์

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อวันพุธ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน นพศก จ.ศ. 1129 ตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 (เมื่อเทียบปฏิทินสุริยคติแล้ว) เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ขณะทรงมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงยกรบัตรเมืองราชบุรี) ประสูติแต่ท่านผู้หญิงนาค (ภายหลังเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) เมื่อเจริญพระชนม์ได้ทรงศึกษาในสำนักพระพนรัตน์ (ทองอยู่) วัดบางว้าใหญ่ และได้ติดตามสมเด็จพระบรมชนกนาถไปในการสงครามทุกครั้ง[1]

ในปี พ.ศ. 2325 เมื่อสมเด็จพระบรมชนกนาถปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว จึงได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร[2] ถึงวันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล พ.ศ. 2349 (นับแบบปัจจุบันเป็นวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2350) เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เสด็จทิวงคต สมเด็จพระบรมชนกนาถจึงให้รับอุปราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล[3]

ครองราชย์

[[ไฟล์:View of the city of Bangkok 1822.jpg|thumb|right|ทิวทัศน์ของเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2365]] [[ไฟล์:วัดช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร (53).jpg|thumb|ขณะทรงช้าง ในจิตรกรรมฝาผนังวัดช่องนนทรี ใช้แบ่งภาพนี้เรียกว่า สินเทา]] เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชประชวรพระโสภะอยู่ 3 ปีก็เสด็จสวรรคต[4]ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2352 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 73 พรรษา นับเวลาในการเสด็จครองราชย์ได้นานถึง 27 ปี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชกรมพระราชวังบวรสถานมงคลจึงได้สำเร็จราชการแผ่นดินต่อมา เมื่อจัดการพระบรมศพเสร็จแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ขุนนางและพระราชาคณะจึงกราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นผ่านพิภพ[5]

ต่อมาวันที่ 10 กันยายน พบหนังสือฟ้องว่าเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิตกับพวกร่วมกันคิดการขบถ ไต่สวนแล้วโปรดให้ประหารชีวิตทั้งหมดในวันที่ 13 กันยายน[6]

การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2352 โดยย้ายมาทำพิธีที่หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เนื่องจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทซึ่งสร้างขึ้นแทนพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาทอันเป็นสถานที่ทำพิธีปราบดาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั้นใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอยู่ ในรัชกาลต่อ ๆ มาจึงใช้หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานเป็นสถานที่จัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและใช้พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นสถานที่ตั้งพระบรมศพ หลังจากเสร็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระองค์จึงเสด็จเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราตามโบราณราชประเพณี[7]

สวรรคต

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระประชวรด้วยโรคพิษไข้ ทรงไม่รู้สึกพระองค์เป็นเวลา 8 วันແມ່ແບບ:อ้างอิง พระอาการประชวรก็ได้ทรุดลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันพุธ แรม 11 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก ฉศก จ.ศ. 1186 ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367ແມ່ແບບ:อ้างอิง สิริพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา และครองราชย์สมบัติได้ 15 ปี พระบรมศพประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทແມ່ແບບ:อ้างอิง และได้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเมื่อ พ.ศ. 2368 ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงແມ່ແບບ:อ้างอิง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้อัญเชิญพระบรมอัฐิ ไปประดิษฐาน ณ หอพระธาตุมณเฑียร จากนั้นได้นำพระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุไว้ใต้พระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารແມ່ແບບ:อ้างอิง

  1. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 2 ประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 2 เมื่อก่อนเสด็จผ่านพิภพ
  2. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 : 3. ประดิษฐานพระราชวงศ์
  3. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 : 123. พระราชพิธีอุปราชาภิเษกเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
  4. พระราชวิจารณ์ จดหมายเหตุความทรงจำ, ข้อ 222
  5. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 1. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 สวรรคต
  6. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 4. เกิดเหตุเรื่องเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต
  7. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 5. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก